ดุลการชำระเงินระหว่างประเทศและผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยน
ผู้เขียน:   2024-10-18   คลิ:10

ผลกระทบของดุลการชำระเงินต่ออัตราแลกเปลี่ยน

1. ดุลการชำระเงินคืออะไร?

ดุลการชำระเงิน (Balance of Payments หรือ BOP) เป็นบันทึกของธุรกรรมทางเศรษฐกิจทั้งหมดระหว่างประเทศหนึ่งกับต่างประเทศในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งดุลการชำระเงินสามารถแบ่งออกเป็น 2 บัญชีหลัก คือ บัญชีเดินสะพัดและบัญชีทุนและการเงิน

  • บัญชีเดินสะพัด: ประกอบด้วยการส่งออกและนำเข้าของสินค้าและบริการ รายได้ข้ามประเทศ (เช่น ดอกเบี้ยและเงินปันผล) และการโอนเงิน (เช่น การช่วยเหลือทางการเงินระหว่างประเทศและการโอนเงินระหว่างประเทศ)
  • บัญชีทุนและการเงิน: ประกอบด้วยการลงทุนข้ามประเทศ การซื้อขายหลักทรัพย์ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) และการเปลี่ยนแปลงในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ

2. ดุลการชำระเงินส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนอย่างไร?

ดุลการชำระเงินส่งผลต่ออุปสงค์และอุปทานของสกุลเงินในตลาดเงินตราต่างประเทศ การเปลี่ยนแปลงในดุลการชำระเงินมักจะมีผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนผ่านทางกลไกของอุปสงค์และอุปทานของสกุลเงินในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา

ก. บัญชีเดินสะพัดและอัตราแลกเปลี่ยน

บัญชีเดินสะพัดเป็นส่วนที่สำคัญซึ่งแสดงถึงการซื้อขายสินค้าและบริการข้ามประเทศ การเกินดุลหรือขาดดุลในบัญชีเดินสะพัดส่งผลกระทบโดยตรงต่อความต้องการและอุปทานของสกุลเงินในตลาด

  • บัญชีเดินสะพัดเกินดุล: เมื่อประเทศมีการส่งออกมากกว่าการนำเข้า บัญชีเดินสะพัดจะเกินดุล ซึ่งหมายถึงความต้องการใช้สกุลเงินของประเทศนั้นเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้ค้าต่างประเทศต้องการซื้อสกุลเงินของประเทศนั้นเพื่อจ่ายค่าสินค้าและบริการ ผลที่ตามมาคืออัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินนั้นแข็งค่า
  • บัญชีเดินสะพัดขาดดุล: หากประเทศมีการนำเข้ามากกว่าการส่งออก บัญชีเดินสะพัดจะขาดดุล ซึ่งประเทศจะต้องการใช้เงินตราต่างประเทศในการจ่ายค่าสินค้าและบริการจากต่างประเทศ ความต้องการสกุลเงินของประเทศลดลง ซึ่งส่งผลให้อัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินอ่อนค่า

ข. บัญชีทุนและการเงินกับอัตราแลกเปลี่ยน

บัญชีทุนและการเงินมีส่วนเกี่ยวข้องกับการไหลของทุนข้ามประเทศ การเคลื่อนไหวของทุน การซื้อขายหลักทรัพย์ และทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ

  • การไหลเข้าของทุน: เมื่อมีการลงทุนจากต่างประเทศเข้าสู่ประเทศมากขึ้น นักลงทุนต่างประเทศจะต้องซื้อสกุลเงินของประเทศนั้นเพื่อทำธุรกรรม ซึ่งทำให้ความต้องการสกุลเงินของประเทศนั้นเพิ่มขึ้น ส่งผลให้อัตราแลกเปลี่ยนแข็งค่า
  • การไหลออกของทุน: หากเกิดการถอนทุนออกจากประเทศ นักลงทุนนำเงินออกไปลงทุนในต่างประเทศ ส่งผลให้อุปทานของสกุลเงินเพิ่มขึ้นในตลาดและอัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินนั้นอ่อนค่า

3. ผลกระทบของดุลการชำระเงินเกินดุลและขาดดุลต่ออัตราแลกเปลี่ยน

ดุลการชำระเงินไม่สมดุล เช่น การเกินดุลหรือขาดดุล ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนอย่างมีนัยสำคัญ

ก. ดุลการชำระเงินเกินดุล:

เมื่อดุลการชำระเงินของประเทศอยู่ในสภาวะเกินดุล หมายความว่ามีการส่งออกสินค้าและบริการหรือการไหลเข้าของทุนมากกว่าการนำเข้าหรือการไหลออกของทุน สิ่งนี้มักทำให้อัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินแข็งค่าขึ้น เนื่องจากความต้องการใช้สกุลเงินเพิ่มขึ้น

ข. ดุลการชำระเงินขาดดุล:

เมื่อดุลการชำระเงินขาดดุล หมายความว่าประเทศต้องการใช้เงินตราต่างประเทศมากขึ้นเพื่อนำเข้าสินค้าและบริการ หรือมีการไหลออกของทุนมากกว่าการไหลเข้า ทำให้อุปทานของสกุลเงินในประเทศเพิ่มขึ้น ส่งผลให้อัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินอ่อนค่า

4. บทบาทของธนาคารกลางในการควบคุมอัตราแลกเปลี่ยน

ธนาคารกลางมีบทบาทสำคัญในการรักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยน โดยการแทรกแซงในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกลางสามารถซื้อหรือขายเงินตราต่างประเทศเพื่อควบคุมการแข็งค่าหรืออ่อนค่าของสกุลเงิน

  • การซื้อเงินตราต่างประเทศ: หากธนาคารกลางต้องการลดการแข็งค่าของสกุลเงิน ธนาคารกลางจะซื้อเงินตราต่างประเทศและปล่อยสกุลเงินของตนออกสู่ตลาด ทำให้อุปทานสกุลเงินเพิ่มขึ้นและลดการแข็งค่า
  • การขายเงินตราต่างประเทศ: หากธนาคารกลางต้องการป้องกันการอ่อนค่าของสกุลเงิน ธนาคารกลางสามารถขายเงินตราต่างประเทศและซื้อคืนสกุลเงินของตน เพื่อทำให้อุปทานสกุลเงินลดลงและช่วยให้อัตราแลกเปลี่ยนแข็งขึ้น

5. ผลกระทบของดุลการชำระเงินในระยะยาวต่ออัตราแลกเปลี่ยน

ดุลการชำระเงินไม่เพียงแต่มีผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนในระยะสั้น แต่ยังส่งผลในระยะยาวด้วย หากประเทศมีดุลการชำระเงินเกินดุลอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้สกุลเงินแข็งค่าเป็นเวลานาน ในขณะที่การขาดดุลอย่างต่อเนื่องอาจทำให้สกุลเงินอ่อนค่า

ก. ดุลการชำระเงินเกินดุลระยะยาว:

การเกินดุลในระยะยาวอาจทำให้สกุลเงินของประเทศแข็งค่ามากขึ้น ทำให้สินค้าส่งออกของประเทศนั้นมีราคาแพงขึ้นในตลาดต่างประเทศ ซึ่งอาจลดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าและบริการ

ข. ดุลการชำระเงินขาดดุลระยะยาว:

การขาดดุลในระยะยาวอาจทำให้สกุลเงินอ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าการอ่อนค่าจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของการส่งออก แต่ก็อาจนำไปสู่ภาวะเงินเฟ้อภายในประเทศ เนื่องจากการนำเข้าสินค้าและบริการมีราคาสูงขึ้น

6. ปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อดุลการชำระเงินและอัตราแลกเปลี่ยน

นอกจากบัญชีเดินสะพัดและบัญชีทุนและการเงินแล้ว ปัจจัยอื่น ๆ เช่น นโยบายการคลังของรัฐบาล เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ และความต้องการสินค้าในตลาดโลก ก็อาจมีผลต่อดุลการชำระเงินและอัตราแลกเปลี่ยน

  • นโยบายการคลังของรัฐบาล: การขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลอาจส่งผลให้เกิดการไหลออกของทุนและอัตราแลกเปลี่ยนลดลง
  • เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ: เหตุการณ์เช่น สงครามหรือวิกฤตการเงินอาจทำให้การไหลของทุนเกิดความไม่แน่นอนและส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยน
  • ความต้องการในตลาดโลก: ความต้องการสินค้าและบริการของประเทศหนึ่งในตลาดโลกสามารถเปลี่ยนแปลงบัญชีเดินสะพัดและอัตราแลกเปลี่ยนได้


ความคิดเห็นของผู้ใช้

ยังไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

เปิดบัญชีกับ
โบรกเกอร์ Dupoin

สมัครสมาชิกกับเรา ผ่านโบรกเกอร์ Dupoin

**สิทธิพิเศษมีจำนวนจำกัด สำหรับสมาชิกเท่านั้น!!

เกี่ยวกับเรา

ติดต่อเรา

เรื่องที่น่ารู้

Thelaiatelegraph คือเว็บไซต์ที่มุ่งมั่นแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับตลาด Forex และ Cryptocurrency เช่น Bitcoin, Ethereum, XRP, Litecoin และ Dogecoin รวมถึงข้อมูลข่าวสารที่อัปเดตอย่างรวดเร็วทันทุกการเคลื่อนไหวในตลาดเหล่านี้

เราไม่สนับสนุนการชักชวนให้เทรดหรือระดมทุนในทุกกรณี เราเป็นเพียงสื่อกลางที่มุ่งมั่นแบ่งปันความรู้เท่านั้น

**การซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงินทุกชนิดมีความเสี่ยง นักลงทุนหรือนักเก็งกำไรควรทำความเข้าใจก่อนที่จะเข้าซื้อขายสินทรัพย์นั้นๆ**

ข้อมูลลิขสิทธิ์และนโยบายการใช้งานของ Thelaiatelegraph

ติดต่อทางอีเมล: [email protected]

ติดต่อเพิ่มเติมทาง Line:

Copyright 2024 Thelaiatelegraph © สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ห้ามทำซ้ำหรือคัดลอกข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต

เรามีนโยบายในการนำเสนอข้อมูลอย่างโปร่งใสและเป็นกลาง ข้อมูลทั้งหมดที่นำเสนอไม่มีเจตนาในการชักชวน ชี้นำ หรือให้คำแนะนำในการลงทุน