นโยบายการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE (Quantitative Easing) เป็นมาตรการทางการเงินที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจหรือการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ โดยการซื้อสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น พันธบัตรรัฐบาลและหลักทรัพย์ที่มีมูลค่า เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในระบบการเงิน ส่งผลให้ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อได้มากขึ้นและกระตุ้นการลงทุนและการใช้จ่ายในเศรษฐกิจ
นโยบาย QE มีผลกระทบอย่างมากต่อตลาดการเงิน การเพิ่มสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจทำให้ราคาสินทรัพย์ เช่น หุ้น และพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้น นักลงทุนมักย้ายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้น เพื่อหาผลตอบแทนที่สูงกว่า นอกจากนี้ การที่ค่าเงินอ่อนค่าลงจากการดำเนินนโยบาย QE ยังทำให้สินค้าส่งออกของประเทศนั้นมีราคาถูกลงในตลาดโลก ส่งเสริมการค้าและการส่งออก
ในปี 2008 หลังจากเกิดวิกฤตการเงินโลก ธนาคารกลางสหรัฐได้ใช้นโยบาย QE อย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยการซื้อพันธบัตรรัฐบาลและหลักทรัพย์จำนวนมหาศาล ส่งผลให้ตลาดหุ้นฟื้นตัวและเศรษฐกิจเริ่มกลับมาขยายตัว
นโยบายการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เป็นมาตรการทางการเงินที่สำคัญที่ธนาคารกลางสหรัฐใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงวิกฤต โดยการเพิ่มสภาพคล่องในระบบการเงิน นโยบายนี้มีผลกระทบต่อค่าเงิน การลงทุน และการเติบโตทางเศรษฐกิจ นักลงทุนควรติดตามการประกาศนโยบาย QE เพื่อประเมินผลกระทบต่อการลงทุนและตลาดการเงิน